วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

นิยามแห่งความสุข

นิยามแห่งความสุข

       จะเริ่มต้นอธิบายอย่างไรให้เข้าใจว่า มีช่องทางที่สามารถนำความสุขให้ชีวิตได้นับสิบนับร้อย มันขึ้นอยู่กับการตีความของแต่ละคน นอกเหนือจากความสุขที่มนุษย์ทุกคนต่างยอมรับด้วยการเห็นพ้องและสัมผัสได้ทั่วกัน
       ความสุขคือ  การเข้าใจ เข้าใจว่าชีวิตอยู่ในกำหนดของผู้ลิขิตไม่ว่าจะยามดีหรือร้าย เมื่อเข้าใจก็ย่อมไม่วุ่นวาย เพียงใจยอมรับและปล่อยให้ทุกสิ่งดำเนินไปตามเส้นทางของมัน เหมือนสายน้ำที่ไหลเรื่อยๆ ไปตามกระแส บางช่วงก็นุ่มนวล ครั้นเมื่อปะทะหินก็ดังสาดซ่า
การเข้าใจกฎเกณฑ์ไม่ได้เป็นการละเลย แต่เป็นการทำให้ดีที่สุดโดยไม่ยึดติดว่ามันต้องเป็นอย่างที่คิดเสมอ
   ความสุขคือ  การมอบตนให้กับเจ้าของเพียงผู้เดียว เที่ยวคอยแสวงหาความโปรดปรานและความไว้วางใจจากเขาผู้นั้น คราใดที่เผลอทำผิดก็รีบรุดกลับไปวอนขอโทษ ผูกพันเสียยิ่งกว่าเป็นคนรัก หัวใจที่มอบตนรู้ดีว่าความรู้สึกนี้เป็นอย่างไร บางครั้งก็ละอายคละเคล้ากับความรู้สึกกลัวและขยาด เป็นอยู่ครู่เดียวพอนึกได้ว่าความรักของผู้ที่ยิ่งใหญ่แม้ฟ้าอันไพศาลก็มิอาจจุไว้ หัวใจที่ห่อเหี่ยวก็กลับสดชื่นขึ้นโดยพลัน
  
  มนุษย์มิอาจหนีพ้นจากการต้องทำผิด แต่มนุษย์ก็มีสุขเมื่อชนะตนเพราะยับยั้งไม่ให้เกิดความผิดได้ หรือเมื่อรู้ว่าความผิดของตนจะได้รับการอภัย
   ความสุขคือ  การเป็นมิตร มองในแง่ดีกับทุกสิ่งรอบข้าง วัตถุที่ไม่มีชีวิตแม้จะไม่รับรู้ความเจ็บปวด แต่ความสุขจะเกิดขึ้นได้อย่างไรถ้าเราไม่รู้จักรักและถนอมสิ่งที่เราครอบครอง เป็นเพียงแต่ใช้ ปล่อยให้มันแตกหัก หกล้มระเนระนาด ไม่รู้จักจัดให้เป็นระเบียบ พฤติกรรมเช่นนี้บอกว่าเราขาดความละเอียดอ่อน ไร้ความนุ่มนวล ไม่มีนิสัยของการเห็นใจ ทั้งๆ ที่ลักษณะเล็กๆ ที่เรามองข้ามมีคุณค่าที่สร้างความสุขได้
เป็นมิตรกับคน คือการทำตนให้ผู้อื่นรัก ไม่ใช่เห็นแก่ตัว ไม่ใช่เป็นแต่รับและไม่รู้จักยื่น


   
      ความสุขคือ  ความโล่งใจ คือหัวใจที่ไม่ต้องคิดแค้นคนอื่น คือชีวิตที่มีคุณค่าด้วยความรักและการให้ โดยไม่ต้องหวังอะไรที่เป็นผลทางวัตถุ เป็นคนที่ไม่ต้องแข่งขัน หากแต่ปล่อยให้เป็นอิสระตามสภาวการณ์ รู้จักตน รู้จักคนอื่น ไม่สูงแต่ไม่เป็นเหยื่อใคร
  อะไรคือ  ความสุขที่เราต่างใฝ่หา ถ้าชีวิตบนโลกนั้นแสนสั้นมีใครคิดจะเตรียมการสำหรับความสุขอันยาวนานไม่สิ้นสุดบ้าง?


แท้จริงบรรดาผู้ยำเกรงนั้นจะได้อยู่สวนสวรรค์และความสุขสำราญ ได้รับความสุขอันล้นพ้นด้วยสิ่งที่องค์อภิบาลประทานให้ พระองค์ทรงคุ้มครองพวกเขาให้พ้นจากเปลวไฟอันร้อนแรง ‘จงกินและจงดื่มด้วยความสำราญเถิด ตามที่พวกเจ้าได้ทำดีไว้ พวกเขาได้นอนอย่างเอกเขนกบนเตียงที่เรียงเป็นแถว และเรายังให้มีคู่ครองแก่พวกเขาเป็นสาวดวงตาสวย (ความหมายจากสูเราะฮฺ อัฏ-ฏูรฺ อายะฮฺที่ 17-20)
และเราจะเพิ่มพูนแก่พวกเขา ให้มีผลไม้และเนื้อตามที่พวกเขาปรารถนา พวกเขาจะแลกเปลี่ยนถ้วยแก้วกันในสวรรค์ ไม่มีพูดไร้สาระ ไม่มีการทำบาป รอบๆ ตัวพวกเขามีเด็กรับใช้ที่คอยวนเวียน ซึ่งงดงามบริสุทธิ์เสมือนหนึ่งไข่มุกที่ถูกห่อหุ้ม (ความหมายจากสูเราะฮฺ อัฏ-ฏูรฺ อายะฮฺที่ 22-24)

ความสุขคือการรู้ รู้ตัวตนที่แท้จริงของชีวิตโลก รู้ว่าต้องทำอย่างไรให้ได้รางวัลเป็นความสุขในโลกนิรันดร์
มอบความสุขให้กับตัวเอง ด้วยการเรียนรู้วิถีที่แท้จริงของชีวิต


บทความจาก  http://www.e-daiyah.com/ar/node/360

ความสุขคืออะไร.?

อะไร..?

ความสุขคือ…การได้ทำในสิ่งที่ต้องการ: มีอิสระที่จะเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง เลือกทำสิ่งต่างๆได้ตามที่ตัวเองต้องการไม่ต้องฝืนใจทำสิ่งที่ไม่ต้องการ

ความสุขคือ…การมีความสัมพันธ์ที่ดี: สามารถแบ่งปันความรู้สึกกับคนที่ใกล้ชิดได้ กล้าที่จะรักและไว้ใจผู้อื่น มีคนที่รักอย่างจริงใจ ได้รับการยอมรับจากคนใกล้ชิด


ความสุขคือ…การมีจิตใจที่สงบ: มีจิตใจที่มั่นคงไม่หวั่นไหวความเปลี่ยนแปลงง่ายๆ สามารถรับมือกับทุกสิ่งได้เป็นอย่างดี


ความสุขคือ…การพัฒนาตน: มีเป้าหมายในชีวิต มีความหวังในการดำรงชีวิต รู้สึกว่าประสบการณ์ชีวิตในแต่ละวันมีคุณค่า เรียนรู้จากชีวิตที่ผ่านมา

ความสุขคือ…การคิดเชิงบวก: ไม่ว่าจะล้มเหลวบ่อยแค่ไหนก็ไม่คิดจะยอมแพ้ มองหาสิ่งดีๆที่อยู่ในสถานการณ์ต่างๆ ไม่ยอมแพ้กับอุปสรรค


ความสุขคือ…การมีสุขภาพกายและจิตที่ดี: รู้สึกภูมิใจในสิ่งที่เป็น ร่าเริงแจ่มใส ไม่เจ็บป่วยบ่อยๆ


ความสุขคือ…การกระตือลือล้นทำสิ่งต่างๆ: สนุกสนานกับชีวิต มีแรงจูงใจ ควบคุมตัวเองให้ทำในสิ่งที่ต้องการได้ ได้รับผิดชอบต่อตัวเอง ควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้


ความสุขคือ…การรับรู้ถึงความสำเร็จ: ได้ในสิ่งที่ต้องการ ประสบความสำเร็จตามที่ได้ตั้งใจไว้ อิ่มเอมเมื่อได้ช่วยเหลือคนอื่น

ความสุขคือ…การรู้สึกพอใจในสิ่งที่มี: รู้สึกพอใจในสิ่งที่เป็น พอใจในสิ่งที่มีอยู่ ไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร

ความสุขคือ…การกระทำของตน: มีความภูมิใจในสิ่งที่ทำ รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าในสังคม เห็นคุณค่าของตนรู้สึกว่าตัวเองมีค่า

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หลังจากได้อ่านองค์ประกอบต่างๆของความสุขแล้ว  คิดเห็นอย่างไรบ้างแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ
กล่าวโดยสรุปแล้ว “ความสุขคือ สภาวะที่บุคคลรับรู้ว่าตนเองได้ทำในสิ่งที่ตนต้องการและทำได้สำเร็จ มีความเป็นตัวของตัวเอง มีความภาคภูมิใจในการกระทำของตน มีความคิดเชิงบวก มีความกระตือรือร้นล้นในการดำเนินชีวิตที่จะนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี การพัฒนาตนการมีสัมพันธภาพที่ดีกับคนรอบข้างและสังคม สามารถดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงและมีใจที่สงบ”


บทความจาก  http://www.chulawellness.com/index.php?  ,http://community.momypedia.com/community/blog/my_blog_detail.aspx?bgrid=69594&blgid=16798

อะไรคือความสุขกันนะ

                                 ความสุขคืออะไร



จอร์จ  โอซาว่า  บิดาแห่งแมคโครไบโอติกส์ มีแนวคิดว่ามนุษย์เกิดมาแล้วต้องมีความสุข โดยเขียนไว้ว่า  “หากใครไม่มีความสุข ไม่สมควรกิน เพราะมันเป็นความผิดของเขาเอง” ทั้งความสุขและการกินนั้นสามารถหาได้ในชีวิตประจำวันที่เป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล โดยการศึกษาจากปรัชญาของ หยิน-หยาง ในคัมภีร์อี้จิงของจีนเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว และหลักการของหยิน-หยางนี่เองจะเป็นเข็มทิศนำทางของเรา ทำให้เรามองเห็นทิศทางชีวิตของเราเอง ช่วยให้เราหาจุดยืนของเราในจักรวาลอันไม่มีที่สิ้นสุด และนำเราไปสู่สุขภาพและความสุข ช่วยให้เราสามารถทำความเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่เรากินเข้าไป จะส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจของเราอย่างไร

ความสุขคืออะไร ? 
นักปราชญ์จีนเมื่อหลายพันปีมาแล้วได้ร่วมกันให้คำนิยามความสุขไว้ดังนี้
1) การมีชีวิตอยู่อย่างมีประโยชน์ สนุกสนาน อายุยืนยาว เบิกบาน โดยไม่รู้จักวัยชรา
2) ไร้ความวิตกกังวลเรื่องเงินทอง
3) มีความสงบเงียบในจิตใจ ไม่โกรธหรืออารมณ์เสียด้วยเรื่องอุบัติเหตุ หรือโศกนาฏกรรม หรือความยากลำบาก การขาดความสงบอาจเป็นเหตุให้ตายก่อนกำหนด
4) มีความกตัญญูกตเวที มีระเบียบวินัย เป็นนักจัดการที่ดี เป็นคนโอบอ้อมอารี ชอบให้
5) ไม่เป็นที่หนึ่ง เพราะต่อไปจะกลายเป็นคนสุดท้าย เป็นคนสุดท้ายซึ่งจะกลายเป็นที่หนึ่งในบั้นปลายและตลอดไป มีความเจียมตัว อ่อนน้อมถ่อมตน และเดินสายกลาง


องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้สอนเรื่องความทุกข์ 8 ประการ คือ


1) ความทุกข์ทางสังขาร ได้แก่
1.1 การมีชีวิตอยู่เป็นทุกข์
1.2 ความเจ็บป่วยเป็นทุกข์
1.3 ความชราเป็นทุกข์
1.4 ความตายเป็นความเจ็บปวดและเป็นทุกข์


2) ความทุกข์ทางจิตใจ ได้แก่
2.1 การพลัดพรากจากคนที่รักเป็นทุกข์
2.2 ความเกลี่ยดเป็นทุกข์
2.3 ความอยากได้ในสิ่งที่ยั่วยวนทั้งหลายในโลกนี้เป็นทุกข์
2.4 การไม่ได้รับในสิ่งที่ตนต้องการเป็นทุกข์


     เพื่อขจัดความทุกข์ 8 ประการของมนุษย์ให้หมดไป พระพุทธเจ้าได้สอนแนวทางในการดับทุกข์ คือ อริยมรรคแปดประการ เพื่อให้บรรลุถึงบรมสุขคือ “นิพพาน”
นิยามความสุขของ จอร์จ  โอซาว่า คือ ทำอะไรก็ได้ที่เราต้องการทำ และสนุกสนานกับมันทั้งวันทั้งคืน จนกระทั่งถึงที่สุดแห่งชีวิต ทำอย่างที่ฝันได้ทั้งหมด และเป็นที่รักของทุกคนระหว่างมีชีวิตอยู่ และแม้หลังจากตายไปแล้ว ชีวิตเช่นนี้คือ ความสุข วิถีชีวิตแบบแมคโครไบโอติกส์ เป็นวิถีชีวิตที่จะให้ความสุขเช่นนี้ได้
…ทั้งหมดนี้คือข้อเขียนเชิงวิชาการ เรื่องอาหารแมคโครไบโอติกส์ ธรรมชาติบำบัด-สุขภาพ ด้วยการแพทย์แบบผสมผสาน ของกองการแพทย์ทางเลือก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ที่ก้อยเลือกมาให้ทุกคนได้อ่าน เพราะก้อยมองว่าความสุข คือสุดยอดความปรารถนาของทุกคน มีหนทางอะไรที่จะช่วยดับทุกข์ หรือช่วยให้เรามีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขเราก็ควรจะเข้ามาศึกษา มาเรียนรู้ ว่า “ใช่” สำหรับเรารึป่าว


บทความจาก http://paaying.wordpress.com

แหม..อย่าร้ายนักสิ

ระวังหน่อยนะครับ ....